ยินดีต้อนรับ เข้าสู่ระบบ - หรือ - สมัครสมาชิก
Tel:-
สินค้าในตะกร้า
0
สินค้าในตะกร้า [0]
X
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
หน้าหลัก > ข่าวและประกาศ > บุหรี่กลีบบัว
บุหรี่กลีบบัว
เขียนโดย burinok888 เมื่อ Fri 11 Oct, 2024
Like
Images/Blog/KqiKX3jD-XqOYd3Nh7MDnPmJCDcKM.webp

บุหรี่กลีบบัว

พระโอสถมวนหรือบุหรี่สำหรับเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ดอกบัว ถือเป็นไม้ที่มีประโยชน์และคุณค่าตั้งแต่รากถึงดอก เพราะสามารถนำมาทำอาหาร ขนม ทำเป็นน้ำชา บูชาพระ 
หรือแม้กระทั่งสกัดเป็นยาเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ และบำรุงร่างกายได้ ส่วนกลีบบัวนอกจากความสวยงามแล้วในสมัยโบราณยังเคยมีการนำมาทำเป็นยาสูบโดยใช้เกสรบัวหลวงตากแห้ง รวมถึงนำดอกไม้และสมุนไพรอื่นๆ มาเป็นส่วนประกอบ

ส่วนประกอบของบุหรี่คือยาเส้น ได้มาจากการคัดเลือกใบยาสูบ ที่มีความแก่ ระดับปานกลาง​ มี 3 ระดับ​ คือ

1. ยาฉุน คือ ใบยาสูบ ที่แก่จัด นับจาก ยอดใบ ลงมา 9-10 ใบ  มีรสชาติฉุนมาก ขื่นมากเวลาสูบ

2. ยากลาง คือใบยาที่ นับจากยอดลงมา 4 ใบ  มีความเข้มของยา ปานกลาง

3. ยาจืด คือ ใบยาที่อ่อน นับจากยอด 2 ใบมีความอ่อนมาก ในระดับความขื่น 

ส่วนใหญ่บุหรี่กลีบบัวจะเลือกยากลางลงมาเป็นส่วนผสม แต่ครั้งโบราณแหล่งยาเส้นที่ดีที่สุดของไทย อยู่ที่เมืองเพชรบูรณ์ หรือเลย
โดยพืชที่นำมาใช้ทำใบยาสูบได้แก่

1.  ดอกปีบ ตากแห้งทั้งดอกมีสรรพคุณรักษา โรคทางเดินหายใจ

2.  พิมเสนเกล็ดทอง ( ปัจจุบันไม่มีผลิตแล้ว )

3. เกสรบัวหลวงตากแห้ง

4. ใบกระวานแห้ง หรือ เมล็ด คั่วร้อน

5. อบเชย  บางสูตรอาจใส่ ชะเอม  เพื่อความชุ่มคอ แต่เมื่อมีการเผาไหม้ เมื่อมีการจุดยาเส้นแล้วสิ่งที่จะทำให้ชุ่มคอ คือ พิมเสนเพราะเป็นสารระเหย สิ่งเหล่านี้คือตัวหลักในยามวน​ ส่วนบางสูตรอาจจะซอยผิวส้มซ่า หรือใส่กานพลูลงไป

การมวนใบยาจะต้องมีใบตองอ่อนที่นาบกับหินอ่อนร้อนๆ จนแห้งมามวนเป็นใบยาสูบ แล้วนำกลีบดอกบัวหลวง ที่บานเต็มที่ใกล้โรยมานาบเป็นแผ่นรองนอกความยาวราวๆ 4.5 นิ้ว 
โดยประมาณ ติดด้วยยางมะตูมขนาดราวๆ ลำเทียนฝั้นปลายนิ้วก้อยนางก็จะได้ใบยากลีบบัวสวยงามออกมา 
แต่ปัจจุบันภูมิปัญญาไทยเหล่านี้ไม่มีการสืบสาน​ ทำให้ถูกกลืนกลบไปจนหมดสิ้น​ 

ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2024 Vevo Systems Co., Ltd.